บทที่ 5
การอธิบายความหมาย และรายละเอียดของมาตรฐาน ISO 26000 ฉบับ FDIS (Explanation of ISO/SR 26000; Final Draft International Standard)
ตอนที่ 14: หัวข้อกำหนด 4.6 การแสดงความเคารพนับถือต่อบทบัญญัติทางกฎหมาย
4.6 Respect for the rule of law |
The principle is: an organization should accept that respect for the rule of law is mandatory. |
The rule of law refers to the supremacy of law and, in particular, to the idea that no individual or organization stands above the law and that government is also subject to the law. The rule of law contrasts with the arbitrary exercise of power. It is generally implicit in the rule of law that laws and regulations are written, publicly disclosed and fairly enforced according to established procedures. In the context of social responsibility respect for the rule of law means that an organization complies with all applicable laws and regulations. This implies that it should take steps to be aware of applicable laws and regulations, to inform those within the organization of their obligation to observe and to implement those measures. |
An organization should: - comply with legal requirements in all jurisdictions in which the organization operates, even if those laws and regulations are not adequately enforced; - ensure that its relationships and activities comply with the intended and applicable legal framework; - keep itself informed of all legal obligations; and - periodically review its compliance with applicable laws and regulations.. |
คำอธิบาย 
4.6 การแสดงความเคารพนับถือต่อบทบัญญัติทางกฎหมาย
หลักการของบทบัญญัติทางกฎหมายนั้น ระบุว่า องค์การควรยอมรับในเรื่องที่ต้องมีการแสดงความเคารพนับถือต่อกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งบังคับหรือไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าวได้แต่ประการใดทั้งสิ้น
รายละเอียดของบทบัญญัติทางกฎหมายเช่นนั้น ยังได้อ้างถึงความเป็นสิ่งสูงสุดของกฎหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถกำหนดออกมาเป็นแนวความคิดที่สำคัญอย่างชัดเจนในลักษณะที่ว่า ไม่มีบุคคลรายใดๆ หรือองค์การแห่งใดก็ตาม ที่ปรากฏมีสถานะอยู่สูงเหนือกว่ากฎหมาย และยังครอบคลุมรวมไปถึงที่ว่า รัฐบาลเองก็จำเป็นต้องมีการปฏิบัติให้สอดคล้องตรงตามกฎหมายที่ถูฏระบุไว้อีกด้วยเช่นกัน บทบัญญัติทางกฎหมายดังกล่าว จึงแสดงผลในลักษณะที่ตรงกันข้ามกับการแสดงอำนาจตามอำเภอใจโดยไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ขึ้นมารองรับอยู่ทั้งสิ้น โดยทั่วไปแล้วการแสดงความเด่นชัดของรายละเอียดทางกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่สำคัญต่างๆ เช่นนั้น จึงจำเป็นต้องถูกเขียนหรือถูกบันทึกไว้เพื่อให้ปรากฏออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร มีการเปิดเผยรายละเอียดออกไปต่อสาธารณะ และจำเป็นต้องมีการบังคับใช้ประโยชน์ให้ดำเนินเป็นไปอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะการกำหนดให้มีลักษณะของความสอดคล้องสืบเนื่องไปกับวิธีการปฏิบัติต่างๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นมาอยู่ร่วมด้วย ดังนั้นภายใต้บริบทที่เกี่ยวข้องกับ SR การแสดงความเคารพนับถือต่อบทบัญญัติทางกฎหมาย จึงหมายความลงไปว่า องค์การแต่ละแห่งสมควรได้มีการนำไปใช้ปฏิบัติ เพื่อให้แสดงถึงผลที่มีความสอดคล้องเข้ากับกฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์อยู่โดยตรง รายละเอียดเช่นนี้ จึงกำหนดหรือระบุให้องค์การแต่ละแห่ง ล้วนจำเป็นต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนสำหรับการสร้างความตระหนักขึ้นมาในเรื่องของกฎหมาย และกฎเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ ที่ต้องยึดถือปฏิบัติ โดยมีการแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดเป็นการภายในองค์การตนเองสำหรับการแสดงความรับผิดชอบต่อการเฝ้าสังเกตว่า มีผลการปฏิบัติเกิดขึ้นมาเป็นอย่างไร และยังมีความหมายครอบคลุมไปถึงว่า องค์การจะต้องมีความเชื่อมั่นได้ถึงระดับความสัมพันธ์ทั้งหลายของการปฏิบัติงานอย่างสอดคล้องทางกฎหมายเช่นนั้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจติดตามผล รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกดำเนินการขึ้นมาด้วยความตั้งใจ จะมีส่วนสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องอยู่ภายใต้กรอบแห่งการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ ที่กำหนดไว้ให้ทุกประการ
เพราะฉะนั้นองค์การจึงควรปฏิบัติในแนวทางที่เหมาะสม ดังนี้
- มีการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องเข้ากับความต้องการทางกฎหมาย และกฎเกณฑ์ประการต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อกำหนดและอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจดำเนินการทางศาล หรือเมื่อเป็นการพิจารณาผลตัดสินคดี ซึ่งองค์การแต่ละแห่งย่อมมีการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องอยู่โดยตรง
- มีความมั่นใจได้ว่า ระดับความสัมพันธ์และกิจกรรมทั้งหลายของการปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจเช่นนั้น จะแสดงรายละเอียดของความสอดคล้อง และจะเป็นผลที่ดีเมื่ออยู่ภายใต้กรอบแห่งการปฏิบัติตามรายละเอียดของกฎหมายอยู่ทุกประการ
- มีการดำเนินงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อต้องการให้มีการรายงานผลของการปฏิบัติงานครั้งดังกล่าว มีความสอดคล้องตรงตามรายละเอียดของข้อผูกมัดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้นมาภายในองค์การของตน และ
- มีการทบทวนสำหรับผลการปฏิบัติงานภายใต้ช่วงระยะเวลาที่ถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของความสอดคล้องทางกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นอยู่ร่วมด้วยเสมอ
การปฏิบัติตามรายละเอียดของบัญญัติทางกฎหมาย (By Law) ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่กับองค์การแต่ละแห่งเท่านั้น จึงจะถือได้ว่า มีการแสดงความรับผิดชอบออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยตรง
XXXXXXXXXX
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น